The Garden เคล⬇ี้นเสียงร้องที่ทรมานและจังหวะอันน่าเวทนาของการสลายตัว
หากพูดถึง Industrial Music หลายคนอาจจะนึกถึงภาพวงดนตรีเฮฟวีเมทัลที่ใส่เสื้อผ้าสีดำมืดครื้ม และแสดงบนเวทีที่เต็มไปด้วยไฟสีแดง โรคจิตเล็กน้อย และเสียงกรีดร้องที่น่าสะพรึงกลัว แต่ความจริงแล้ว Industrial Music เป็นศิลปะที่หลากหลายและลึกซึ้งมาก โดยมีรากเหง้ามาจากการทดลองทางดนตรี การปฏิวัติของเทคโนโลยี และจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งของผู้สร้างสรรค์
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจ “The Garden” เพลงโศกนาฏกรรมอันน่าสะอึกของ Throbbing Gristle วงดนตรีบุกเบิกแนว Industrial Music ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการดนตรีสมัยใหม่
Throbbing Gristle: บิดาแห่งความหดหู่
Throbbing Gristle ก่อตั้งขึ้นในปี 1975 โดย Genesis P-Orridge (นักร้องนำและผู้แต่งเพลง) , Cosey Fanni Tutti (ผู้เล่นเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และนักร้องประสานเสียง), Peter Christopherson (ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและโปรดิวเซอร์) และ Chris Carter (นักดนตรีอิเล็กทรอนิกส์).
วงนี้เกิดขึ้นมาในยุคปังก์ร็อคกำลังเฟื่องฟู แต่ Throbbing Gristle ไม่ได้สนใจที่จะเล่นเพลงเร็วๆ สนุกสนาน หรือมีเนื้อหาต่อต้านสังคมเหมือนกับวงอื่นๆ พวกเขาต้องการสร้างเสียงดนตรีที่สะท้อนความจริงของโลกและการดำรงอยู่ของมนุษย์ในแง่มุมที่มืดมิด
Throbbing Gristle มีชื่อเสียงจากการใช้เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์อย่าง synthesizer, tape loop และ noise generator เพื่อสร้าง âm thanh ที่น่ารำคาญ ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังชอบผสมผสานเสียงร้องที่ทรมานและเนื้อเพลงที่มีความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องราวของความตาย การทำลายล้าง และความบัดซ้ำ
“The Garden” : บ่อน้ำแห่งความเศร้าโศก
“The Garden” เป็นหนึ่งในเพลงที่โด่งดังที่สุดของ Throbbing Gristle ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในอัลบั้มที่ชื่อว่า “20 Jazz Funk Greats” (1979). เพลงนี้มีอารมณ์หดหู่และน่าเวทนาอย่างยิ่ง โดยเริ่มต้นด้วยเสียง synthesizer ที่ค่อยๆ สั่นไหว เหมือนกับลมพัดผ่านร้าง
จากนั้น เสียงร้องของ Genesis P-Orridge ก็ดังขึ้นมา ซึ่งเป็นการร้องที่แปลกประหลาดและสยดสยอง ไม่ใช่การร้องเพลงแบบปกติ แต่เป็นเสียงกระซิบ, กรีดร้อง และคราง gibi
เนื้อเพลงของ “The Garden” พูดถึงความฝันอันเลวร้ายเกี่ยวกับสวนที่ถูกทำลาย สัญญลักษณ์ของความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ ที่ถูกย่ำยีด้วยการรุกรานของมนุษย์
ในเนื้อเพลงมีประโยคที่น่าสนใจเช่น
“The garden is dying Its flowers are fading away” (สวนกำลังตาย, ดอกไม้กำลังเหี่ยวเฉา)
“The Garden” ยังถูกสร้างขึ้นจากการใช้ tape loops ที่ซับซ้อน ซึ่งทำให้เกิดเสียงดนตรีที่ต่อเนื่องและไม่สิ้นสุด
ผลกระทบของ “The Garden”:
“The Garden” ไม่ใช่เพลง Pop ที่สามารถฟังแล้วมีความสุขได้ทันที แต่กลับเป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกหดหู่ สยดสยอง และกระตุ้นให้ผู้ฟังคิดพิจารณาถึงความหมาย
เพลงนี้แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงและความซับซ้อนของ Industrial Music ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงดนตรีเพื่อความบันเทิง แต่เป็นศิลปะที่ท้าทาย
Throbbing Gristle และ “The Garden” ได้สร้างอิทธิพลอย่างมากต่อวงการดนตรีสมัยใหม่ โดยมีนักดนตรีและกลุ่มศิลปินจำนวนมาก ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Industrial Music
ตารางเปรียบเทียบเพลง “The Garden” กับเพลง Industrial Music อื่นๆ:
เพลง | วงดนตรี | ปี | คุณสมบัติ |
---|---|---|---|
The Garden | Throbbing Gristle | 1979 | เสียง synthesizer, tape loop, vocal noise |
“Down in a Hole” | Alice In Chains | 1992 | กีตาร์หนัก, เสียงร้องทุ้ม,เนื้อหาเศร้าโศก |
“Closer” | Nine Inch Nails | 1994 | โปรแกรม synthesizer , drum machine, เสียงร้อง angst |
สรุป:
Industrial Music เป็นแนวเพลงที่น่าสนใจและมีความซับซ้อน โดยมี “The Garden” ของ Throbbing Gristle เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความสามารถในการสร้างเสียงดนตรีที่หดหู่ น่าเวทนา และกระตุ้นให้ผู้ฟังคิด
Industrial Music ไม่ใช่สำหรับทุกคน แต่ถ้าคุณเป็นนักดนตรีหรือผู้ชื่นชอบดนตรี ที่ต้องการค้นพบโลกแห่งศิลปะอันแปลกใหม่และท้าทาย คุณควรลองฟัง “The Garden”